บี้ให้ตายกันไปข้าง  เบื้องหลังสุดโหดกับสไตล์ฟุตบอลที่เหมือนใคร

บี้ให้ตายกันไปข้าง จากการลงสนาม ของน้องใหม่หน้าเก่า แห่งพรีเมียลีกอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ดูผิวเผิน อาจจะเป็นฟุตบอล สมัยใหม่ที่ทุกคน รู้จักกัน ดีแต่นักเตะ ของลีดส์ มีสไตล์การ เล่นแบบ ที่พวกเขาเรียกกันว่า “เมอร์เดอร์บอล” หรือการเล่นแบบ ฆาตกรรมให้ ตายกันไป ข้างเบื้อง หลังสุดโหดกับ สไตล์ฟุตบอล ที่ไม่มีใครเหมือน ซึ่งถูกคิดค้นโดย มาร์เซโล่ บิเอลซ่า..บ้า กล้า วิ่ง วิ่งไม่หมด

 

บุกแลกทุกทีม บี้จนครบ 90 นาที นี่คือ สิ่งที่ทุกคนเห็น จากการลงสนาม ของแม่ทัพผู้บ้าคลั่ง หากไร้ซึ่งแม่ทัพ กองทัพก็คงจะสู้รบ กันแบบไร้แบบแผน ดังนั้น ในโลกของฟุตบอล เหล่าเฮดโค้ชที่คอยวาง หมากก็เปรียบได้ กับแม่ทัพที่คอย สั่งการให้ลูกทีมของเขา ลงเล่นในแนวทางที่ ตนเองต้องการ ตัวอย่างที่พอจะบอกได้ ชัด จะเห็นได้ว่า คาแร็คเตอร์ ของโค้ช

 

แต่ละคนจะสะท้อนออก มาในแผนการเล่นของ พวกเขา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มากับแผนที่ยืดหยุ่น และไม่เหมือนใคร ในการวาง 11 ตัวจริงแต่ละ ตำแหน่ง, โชเซ่ มูรินโญ่ กับแท็คติกตีหัวเข้าบ้าน สุดแสบที่เต็มไปด้วยพิษสง,เยอร์เก้น คล็อปป์ สั่งลูกทีมไล่ล่าพร้อมกันทั้ง 11 คน

 

รับทั้งทีมบุก ทั้งทีม ตามสไตล์เฮฟวี่เมทัล..และแน่นอน ว่าสำหรับ เมอร์เดอร์บอล ของลีดส์ยูไน เต็ด นั้นสะท้อนมาจาก ความบ้าคลั่งและ โรคจิตของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า  บิเอลซ่า ถูกเรียกว่าพวกบ้าฟุตบอล จนเข้าเส้นเป็น กุนซือของ

 

บิเอลซ่านั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จ ระดับสูงอะไรมากนัก นอกเสียจากการพา อาร์เจนติน่า คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ในปี 2004 แต่ถึงอย่างนั้น ความบ้าของเขา ถูกบอกเล่าส่งต่อกัน มาเรื่อยๆ ในทุกๆทีมที่ เขาเคยไป

 

และจาก ประสบการณ์ การคุมทีมมามากกว่า 30 ปี เขาก็ได้งานสุดท้าทายด้วยการ “ปลุกยักษ์หลับ” อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ในปี 2018 ซึ่งที่นี่เขาได้รับอนุญาต ให้ทำทุกอย่าง ที่อยากจะทำ จะบ้าแค่ไหนก็ได้ ขอเพียงแค่พาทีม ที่เคยยิ่งใหญ่ กลับสู่จุดที่เคยอยู่ให้ ได้ และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของการเอา ฟุตบอล ที่เคยรู้ จนกลายเป็น “เมอร์เดอร์บอล” นั่นเอง

 

สไตล์การเล่นแบบนี้ มีหลายทีมในยุโรป ที่ใช้งานทั้งลิเวอร์พูล

 

ซึ่ง คล็อปป์ นำมาใช้ บิเอลซ่า บอกเสมอว่า เมื่อเขาเข้ามา เป็นนายใหญ่และ แม่ทัพของลีดส์ สิ่งที่เป็นหน้าที่ ที่แท้จริงของเขาคือ “การทำให้นักเตะ ที่มีเป็นนักเตะที่ดีขึ้น” และเมื่อนักเตะ เหล่านี้ยกระดับ ตัวเองขึ้นมาได้ พวกเขาก็จะดีพอ ในแท็คติกที่ยาก, ซับซ้อน และเรียกร้องความฟิต ในระดับ เข้มข้น ถึงขีดสุดได้นั่นเอง และการจะทำให้ ทุกคนในทีมเป็นนักเตะ ที่ดีขึ้นมาได้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ “เริ่มกันที่การฝึกซ้อม”

 

ซึ่งจุดเริ่มต้นจากสนาม ซ้อม นี่เองที่กลายเป็น ที่มาของชื่อเรียก เมอร์เดอร์บอล ในสนามซ้อม สตาฟฟ์โค้ชของ บิเอลซ่า มีหน้าที่อยู่ 2 อย่าง นั่นคือคอยทำตามที่เขาสั่งและคอยทำให้แน่ใจว่าเมื่อบอลออกข้าง จะต้องมีลูก ฟุตบอล ดูบอลสด 

 

ใหม่เข้ามาทดแทนให้เล่นต่อได้ทันทีโดยแทบไม่ต้องหยุดเลยแม้แต่วินาทีเดียว” “มันคือการฆาตกรรมขา และปอดของตัวเอง โดยแท้จริง”บางครั้ง เขาบังคับให้เราลงเล่น (เกมซ้อม) ด้วยจำนวนคนที่ น้อยกว่าคู่แข่ง เพื่อคอยเช็กดู ว่านักเตะ แต่ละคนในทีม มีขีดจำกัดประมาณไหน เขาจะตะโกนสั่งข้าง สนามไม่หยุด

 

บางครั้งเขาลืม ด้านยุทธวิธีไปเลย ในการซ้อม เขาเรียกร้องให้ พวกเรา มีพลังกายภาพ ที่อึดขึ้นและ ทนทานมากขึ้น ลีดส์ นั้น ถูกพัฒนาให้โหด ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งถูก พัฒนาให้โหดขึ้นไปอีก

 

ขั้นหนึ่งการลงทีมและ บังคับ ให้นักเตะลงเล่น ด้วยสปีดบอลที่เร็ว กว่าปกติ ไม่มีกรรมการ ไม่มีการฟาวล์ ผู้เล่นจะต้องใส่กัน เต็มที่เหมือนแข่งจริง พวกเขาสามารถแท็คเกิลกันได้ เต็มที่ กระโดดโหม่งชนกันได้หมด มันถือเป็น ส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อม บางครั้ง บิเอลซ่า จะสั่งหยุดและเรียกรวมทีมสั้นๆ

 

เพื่อบอกแผนและวีธีการ เล่นในรอบต่อไปน่าแปลกที่ไม่มีนักเตะลีดส์คน ไหนแสดงท่าทางเบื่อ หน่ายท้อแท้ พวกเขาแทบไม่อยากพลาดสักการฝึกซ้อม เพราะทุกคนรู้ดีว่า การซ้อมสุดโหดแต่ละเซสซั่นนี้หมายถึงการได้ลง สนามเป็น 11 ตัวจริงในเกมที่จะ มาถึงผลลัพธ์ที่คุณได้มาโดยเฉพาะด้านกายภาพมันไม่น่าเชื่อจริงๆ พอลงสนาม แข่งขันในเกมจริงแล้วกลายเป็นว่า เหมือนกับเราเจอของง่ายเลย

 

พูดตรงๆ ผมไม่คิดหรอกว่าจะมีทีมไหนที่จะฝึกได้เข้มข้นเท่ากับที่พวกเราทำนั่น คือเหตุผลที่พวกเราเป็นฝ่ายครอง เกมในทุกๆสนามที่ไป เราทำมันอย่างเข้มข้น จริงจัง ไม่มีทีมอื่นเทียบได้เลย ซ้อมหนักเท่าไหร่ แข่งจริงยิ่งง่าย เท่านั้น นี่คือหัวใจของ เมอร์เดอร์บอล โดยแท้จริง คู่หูนรกแตก | ข่าวบอลพรีเมียร์ลีก