มาเล่นในถิ่น เลสเตอร์สิตี้ชวดเก็บ 3 คะแนนเพื่อแซง แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปยึดรองผู้นำฝูง
มาเล่นในถิ่น ด้านหลังโดนทีเด็ดของลีดส์ยูไนเต็ด ที่พลิกกลับมาแซงชนะไปสุดบันเทิงใจ 3-1 ทำให้กองทัพ “หมาจิ้งจอก” ยังรั้งที่ 3 ของตาราง ส่วนกรุ๊ป “ยูงทอง” เก็บชัยสองนัดแนะรวด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงวันที่ 31 ม.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
ศึกบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกเมื่อเชื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เป็นการเจอะกันระหว่างเลสเตอร์สิตี้ กรุ๊ปชั้น 3 พบลีดส์ ยูไนเต็ด กรุ๊ปชั้น 12 ของตาราง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ปรึกษาเลสเตอร์ ถ้าเกิดเกมนี้พาทีมครอบครองแชมป์ได้จะแซง
แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งรองหัวหน้าฝูงในทันทีทันใด เกมนี้มีปัญหาการจัดกองทัพเมื่อไร้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ที่มีลักษณะเจ็บโดยส่ง นอมปาลิส เมนดี้ ลงเล่นแทน ส่วนแนวรุกยังไม่มีชื่อของ เจมี่ วาร์ดี้ และจากนั้นก็ยังเป็น อโยเซ่ เปเรซ ที่ลงล่าตาข่ายแทน โดยมี เจมส์ แมดดิสัน ดูบอลสด
คอยปั้นเกมด้านหลัง ครึ่งแรกเลสเตอร์ เริ่มด้วยการบุกใส่ทันที ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ในนาที 12 จากจังหวะลากขึ้นมาจากกลางสนามของ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ แล้วทำชิ่งกับ เจมส์ แมดดิสัน คืนบอลกลับมาให้ปีกชาวอังกฤษได้วางเท้าซัดจ่อๆในจุดลูกโทษส่งบอลตุงตาข่าย
มาเล่นในถิ่น อย่างไรก็ดี นาที 15 ลีดส์ยูไนเต็ดที่ได้โต้กลับขึ้นมาตามตีเสมอฉับพลันเป็น 1-1
มาเล่นในถิ่น เมื่อ ลุค อายลิ่ง ตัดบอลได้ในดินแดนตัวเองกระชากขึ้นมาไหลให้ แพทริค แบมฟอร์ด แล้วจ่ายถึงแม้ว่าจะ สจ๊วร์ต ดัลลัส หลุดเข้าไปซัดในจุดลูกโทษบอลพุ่งทิ่มแทงเสาไกลอย่างงดงาม เกมเปิดหน้าแลกกันบันเทิงใจนาที 20 เลสเตอร์แทบจะขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะการยิงของ ข่าวบอลพรีเมียร์ลีก
มาเล่นในถิ่น เจมส์ แมดดิสัน ไปลื่นบล็อคแนวรับ ลีดส์ไปเข้าทาง อโยเซ่ เปเรซ หลุดคนเดียวไปซัดผ่านมือ อิลล็อง เมส์ลิเย่ร์ เข้าประตูไป แม้กระนั้นผู้ช่วยยอมแพ้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน นาที 21 ลีดส์โชคร้ายจำเป็นต้องมาเสียโควต้าสลับตัวอย่างรวดเร็วเมื่อ โรดรีโก้ โมเรโน่ มีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บ
ตราบจนกระทั่ง เล่นต่อไม่ไหว ก่อนจะเป็น มาเตอุส คลิทช์ ลงมาเล่นแทน จากนั้นลีดส์ แทบจะกลับขึ้นนำ ในนาที 31 แจ็ค แฮร์ริสัน ซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ควรต้องออกปัดทิ้งออกด้านหลังไป กองทัพ “ยูงทอง” ได้ลุ้นเป็นประจำการประสานงานของ แพทริค แบมฟอร์ด
ที่ทำชิ่งคืนให้ ราฟินญ่า หลุดเข้าจุดลูกโทษไปซัดด้วยขวา แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกด้านหลังได้อีกครั้ง ในนาที 34 เลสเตอร์ต้องเสียโควต้าสลับตัวคนแรกด้วยเหมือนกัน ตอนหลัง ติโมธี คาสตานเญ่ มีลักษณะเจ็บ แล้วเป็น ริคาร์โด้ เปเรยร่า ลงมาเล่นแทน ในนาที 36
ข้างหลังงแล้วต่อจากนั้นทั้งคู่กลุ่มทำอะไรกันเพิ่มไมได้ จบครึ่งแรกยังเท่ากัน 1-1
มาเล่นในถิ่น พักหลังเลสเตอร์ สลับตัวคนที่สองส่ง ชักลาร์ โซยุนชู ลงมาเล่นแทน มาร์ค อัลไบรท์ตัน พร้อมปรับมาใช้ระบบด้านหลังสามคน เลสเตอร์ยังถือครองเกมได้เหนือกว่า นาที 58 ริคาร์โด้ เปเรยร่า ดึงหนีตัวติดตามแล้วหลุดไปซัดในจุดลูกโทษถึงแม้บอลไม่มีน้ำหนักไปเข้ามือของ
อิลล็อง เมส์ลิเย่ร์ ถึงแม้ถึงแม้กลายเป็นลีดส์ ที่มาได้ประตูกลับขึ้นนำ 2-1 ในนาที 71 แพทริค แบมฟอร์ด รับบอลจาก ราฟินญ่า หลุดไปกดด้วยซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งทิ่มแทงเสาไกลเข้าประตูไปอย่างงดงาม ต่อมาเลสเตอร์ เดินหน้าบุกใส่เป็นลมเป็นแล้งลมพายุ จุดมุ่งหมายต่อไป
หวังทวงประตูคืน ก่อนจะ นาที 76 จะชวดตามตีเสมอแบบโชคร้าย จากจังหวะเอียงตัววอลเย์ด้วยขวาแถวๆศีรษะกระโหลกของ อโยเซ่ เปเรซ อิลล็อง เมส์ลิเย่ร์ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งเอาไว้ได้ เท่านั้นไม่พอ นาที 84 ลีดส์นำห่างเป็น 3-1 จกาจังหวะสวนกลับเร็วจากดินแดนตัวเอง
แพทริค แบมฟอร์ด ลากจากตรงกลางสนามเข้าจุดลูกโทษแล้วจ่ายมอบให้พานให้ แจ็ค แฮร์ริสัน ได้ซัดจ่อๆไม่พลาด ตอนที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมลีดส์ ยูไนเต็ด บุกชนะเลสเตอร์สิตี้ 3-1