ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ เอริค การ์เซีย ปราการหลังอนาคตไกลเลือดกระทิดุ เปิดใจหัวข้อการตกลงใจย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ เพื่อกลับไปค้าลำแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในตอนซัมเมอร์นี้ พร้อมทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำพวกที่สาวก “เร้ด อาร์มี่” ได้ยินมีสิทธิ์ของขึ้นอย่างยิ่งจริงๆ

เอริค การ์เซีย แผงหลังดาวรุ่งชาวสแปนิช ประกาศการันตีว่าตนจะโบกไม้โบกมือลา “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตอนซัมเมอร์นี้ เพื่อย้ายไปเล่นให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า

พร้อมตบท้ายเย้าแหย่สมาพันธ์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลุ่มคูอริร่วมเมืองด้วย ตัวรุกวัย 20 ปี ปรับปรุงฝีเท้าอยู่ในศูนย์ฝึกหัดลา มาเรีย ก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจย้ายมาเข้าเรียนวิชาลูกหนังในอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2017

แม้กระนั้นเขาได้โอกาสได้ลงสู่สนามให้กลุ่มเพียงแต่ 35 เกมจากทุกรายการ แม้ว่าจะสามารถยึดตัวจริงได้อย่างสม่ำเสมอในช่วงท้ายฤดูกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา แม้กระนั้นเจ้าตัวเลือกไม่ยอมรับขยายข้อตกลง เพราะเหตุว่าปรารถนากลับไปค้าหน้าแข้งในถิ่นคัมป์ นู การ์เซีย ซึ่งลงเล่นเพียงแต่ 12 เกมแค่นั้นในทุกรายการ

สำหรับฤดู 2020/2021 ประกาศชัดแจ้งว่าจะย้ายไปเล่นกับ บาร์ซ่า แน่ๆ “ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของผม และก็ในตอนนี้ผมมีความคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุด ผมคิดเรื่องความเด็ดเดี่ยวสำหรับเพื่อการตกลงใจ ผมเชื่อถือมากมายๆกับก้าวเข้าสู่ถัดไปที่ผมเลือกทำ” ข่าวบอลพรีเมียร์ลีก

ส่วนปัญหาที่เกี่ยวกับการเช็ดกนำไปเปรียบเทียบกับ เคราร์ด ปิเก้ ซึ่งย้ายจากอะคาเดมี่ของ บาร์ซ่า มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนช่วงเวลาสั้นๆตอนเป็นดาวรุ่ง ก่อนกลับไปยิ่งใหญ่กับ บาร์ซ่า

โดย การ์เซีย พูดว่า “ผมไม่สนใจหรอก เนื่องจากผมมีความคิดว่าพวกเราเป็นนักเตะที่แตกต่าง จริงไหม ? ความเป็นจริงก็คือ ผมไม่ยอมรับที่จะอยู่กับกลุ่ม เคราร์ด ประสบผลสำเร็จทั้งหมดทุกอย่าง เขายอดเยี่ยมในแผงหลังตัวกลางที่เยี่ยมที่สุดในโลก

เขามีเรื่องมีราวเยอะมากให้จำเป็นต้องจำ แล้วก็ผมพึ่งจะอายุ 20 ปี ผมพึ่งอยู่ในตอนเริ่มอาชีพด้วย โดยเหตุนี้การเปรียบเทียบกันมันมีเพียงแค่เรื่องเดียวก็คือ พวกเราสองคนมาจากศูนย์เยาวชนบาร์เซโลน่า และก็พวกเราดำเนินชีวิตอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์

งานนี้แมนยูมีลุ้น

ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ 5 แมตช์ที่ “กฎประตูกลุ่มเยี่ยม” สร้างผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันสุดช็อกในถ้วย ชปล. 5 ฤดูกาลหลังสุด

ภายหลังที่มีข่าวลือเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าสมาพันธ์บอลยุโรป (ยูฟ่า) กำลังพินิจพิเคราะห์ที่จะยกเลิกกฎประตูกลุ่มเยี่ยม ปัจจุบันในห้องประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 28 เดือนพฤษภาคม ก่อนหน้านี้

ทางคณะกรรมการด้านการประลองของพวกเขาก็มีเสียงโหวตจำนวนมากไปในแนวทางว่าอยากให้ยกเลิกกฎนี้จริงๆโดยเห็นว่ามันเป็นกฎที่โบราณกันไปแล้ว แน่ๆ มันยังมิได้แปลว่ากฎประตูกลุ่มเยี่ยมจะโดนยกเลิกอย่างเป็นทางการ เพราะว่าหากจะให้มันส่งผลแล้วนั้นมันก็จำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากคณะผู้บริหารของ ยูฟ่า เสียก่อน

แต่ว่ามันก็เป็นหัวข้อที่คนไม่ใช่น้อยกล่าวถึงกันมากมายในระดับหนึ่ง รวมทั้งมีความเห็นทั้งยังในเชิงที่เห็นด้วยกับไม่เห็นพ้องที่จะให้มีการยกเลิกกฎที่อยู่กับแวดวงบอลยุโรปมาอย่างช้านาน 56 ปี ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าตลอดระยะเวลาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมากฎประตูกลุ่มเยี่ยมเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น

สำหรับในการวินิจฉัยผลที่ได้รับจากการแข่งขันเกมบอลถ้วยยุโรปอย่างยิ่ง เอาเพียงแค่ 5 ฤดูหลังสุดในเรื่องที่นับรวมฤดูกาลเดี๋ยวนี้เข้าไปด้วยมันก็มีหลายเกมที่กฎประตูทืมเยี่ยมนำมาซึ่งการก่อให้เกิดผลที่ได้รับจากการแข่งขันสุดช็อกในเกมระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว ดูบอลสด

ซึ่งวันนี้พวกเราจะมาย้อนมองอันที่เด่นๆสัก 5 เกมกัน อาแอส โรม่าปะทะบาร์เซโลน่า (ฤดู 2017-18) กูรูแทบทุกสำนักฟันธงตั้งแต่ผลจับฉลากรอบก่อนรองชนะเลิศออกมาใหม่ๆเลยว่า บาร์เซโลน่า จะเป็นข้างเอาชนะ โรม่า ได้ อย่างในรอบ 16 กลุ่มในที่สุด

“อาซูลกราน่า” ก็พึ่งจะโชว์ฟอร์มเด็ดด้วยการดับ เชลซี มาด้วยสกอร์รวม 2 นัดหมาย 4-1 ในตอนที่ โรม่า ผ่านรอบ 16 กลุ่มในที่สุดมาได้แบบลุ้นอ่อนเพลียด้วยกฎประตูกลุ่มเยี่ยม ภายหลังเสมอกับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 2-2 ใช่ ทีแรกๆมันก็ทำท่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆเพราะว่าในครั้งแรก

บาร์เซโลน่า เล่นได้อย่างเหนือชั้นกระทั่งเปิดรัง คัมป์ นู เอาชนะกลุ่มจากอิตาลีไปได้ถึง 4-1 อย่างไรก็แล้วแต่ พอกลับไปเตะที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก กลายเป็น โรม่า ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมกระทั่งชนะแบบกินขาด 3-0 แล้วก็เข้ารอบรองชนะเลิศจากสกอร์รวม 4-4 แบบเหนือความคาดหวัง

ดูบอลสด

อาแอส โมนาโกปะทะแมนฯ ซิตี้ (ฤดู 2016-17)

ในตอนนั้น แมนฯ ซิตี้ มีภาวะดีมากยิ่งกว่า โมนาโก ทุกด้าน ไม่ว่าจะทั้งยังขุมกำลังโดยรวมหรือด้านตัวผู้จัดการทีมที่ของฝั่ง แมนฯ ซิตี้ เพิ่งจะได้ โจเซป กวาร์ดิโอล่า มาปฏิบัติงานกับกลุ่มเป็นฤดูแรก

ในช่วงเวลาที่ของ โมนาโก มี เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม เป็นนายใหญ่ ถึงแม้ว่าในครั้งแรกของรอบ 16 กลุ่มในที่สุด โมนาโก จะบุกไปยิงที่บ้านของ แมนฯ ซิตี้ ได้ 3 ลูก จนถึงทำให้แพ้ไป 3-5

แม้กระนั้นคนจำนวนไม่น้อยก็เห็นว่าในนัดหมายสองกลุ่มของ ชาร์ดิม ไม่น่าจะเอาชีวิตรอดได้อยู่ดี แต่ทว่าตอนท้ายแล้ว โมนาโก ก็ทำเรื่องที่น่าเกินจริงได้ เมื่อพวกเขาเปิดรัง สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ไปได้ 3-1 ทำให้สกอร์รวม 2 นัดหมายเท่ากัน 6-6 และก็เปลี่ยนเป็น โมนาโก ที่ได้ตั๋วไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศด้วยกฎประตูกลุ่มเยี่ยม สเปอร์สปะทะแมนฯ ซิตี้ (ฤดู 2018-19)

ในขณะที่มีการจับฉลากว่า “ไก่เดือยทอง” จำต้องมาดวลกับ “เรือใบสีฟ้า” ในรอบก่อนรองชนะเลิศนั้น คนไม่ใช่น้อยก็เห็นว่า แมนฯ ซิตี้ มีภาษีดียิ่งกว่า ไม่ว่าจะอีกทั้งด้านขุมกำลังที่มีนักเตะชั้นเลิศให้เลือกใช้งานมากยิ่งกว่า หรือผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ยังมองเหนือกว่า เมาริสิโอ โปเช็ตติโน่ นิดหนึ่ง งานนี้แมนยูมีลุ้น

แต่แปลงเป็นว่าในครั้งแรก สเปอร์ส เปิดรัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เอาชนะไปก่อน 1-0 รวมทั้งเพียงพอในนัดหมายสองที่จะต้องไปเยี่ยม เอติฮัด สเตเดี้ยม พวกเขาก็บุกไปยิง แมนฯ ซิตี้ ได้ถึงหน้าบ้านของอีกข้าง 3 ลูก ทำให้ถึงแม้ว่าในนัดหมายสอง สเปอร์ส จะแพ้ไป 4-3 แต่ว่าพวกเขาก็ได้เข้ารอบด้วยกฎประตูกลุ่มเยี่ยมภายหลังที่สกอร์รวม 2 นัดหมายสิ้นสุดลงด้วยการเจ๊ากัน 4-4 แมนฯ ยูไนเต็ดปะทะปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฤดู 2018-19)

ในตอนแรกหลายท่านมีความรู้สึกว่า กรุงปารีส แซงต์-แชร์กแมง คงจะผ่านไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนั้นได้แบบไม่ยากเย็นนัก ภายหลังที่ในครั้งแรกพวกเขาบุกไปชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยสกอร์ 2-0 พูดได้ว่าเว้นแต่ชนะแล้วนั้นยังได้อเวย์โกล์มาตั้ง 2 ลูกอีกต่างหาก

อย่างไรก็ดี ในนัดหมายสองที่ ปาร์ก เดส์-แพร็งซ์ เรื่องสูดช็อกก็เกิดขึ้นเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นข้างคว้าชัยไปได้ 3-1 จนกระทั่งทำให้สกอร์รวม 2 นัดหมายเท่ากัน 3-3 และก็ทำให้กลุ่มของผู้จัดการทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กลับเข้ารอบได้อย่างน่าเกินจริง ที่มันน่าเจ็บนอกจากนี้สำหรับ “เปแอสเช” ก็คือประตูที่ทำให้พวกเขาไม่เข้ารอบแบบที่จำเป็นต้องช็อกกันตาค้างดันมากำเนิดในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บนาทีที่ 4 อีก จากการยิงลูกจุดลูกโทษของ มาร์คัส แรชฟอร์ด