โชว์ให้เห็นความ ยอดเยี่ยมกลุ่มที่ไม่เคยยอมแม้ว่าจะโดนนำไปก่อนก็ตาม

โชว์ให้เห็นความ สามารถจัดแจงยิงคืนสามประตูรวดในแมตช์บุกผลาญ 3-1

โชว์ให้เห็นความ สำหรับแมตช์นี้มีหลักสำคัญ ที่น่าดึงดูดมากมายๆ ในครึ่งแรกที่ “วีเออาร์” ยึดประตูของ เอดินสัน คาวานี่ เนื่องด้วย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ไปทำฟาวล์ใส่ ซน ฮึง-มิน ซึ่งหลังเกมมีการแสดงความเห็นมากมาย แล้วก็ยังก่อให้เกิดการเปิดศึกการรบน้ำลายระหว่าง โชเซ่ มูรินโญ่ กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ดูเหมือน โซลชา จะตกลงใจโดยเด็ดขาดแล้วว่ามือ 1 ของ แมนเชสเตอร์ อาจเป็นของ ดีน เฮนเดอร์สัน ภายหลังที่โกลชาวอังกฤษ ทำผลงานได้อย่างดียิ่งในตอนที่ผ่านมา นำมาซึ่งการทำให้ ดาบิด เด เคอา จำต้องเปลี่ยนเป็นยางอะไหล่ไปโดยปริยาย

นายทวารดีกรีกลุ่มชาติอังกฤษ มิได้ทำผิดพลาดอะไรเลยกับจังหวะที่เสียประตูแรกให้ สเปอร์ส โชว์ให้เห็นความ ซึ่งถ้าหากมองดูอย่างเป็นกลาง ก็จำต้องพูดว่าผู้ที่ควรจะโดนต่อว่าน่าจะเป็น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่สกัดบอลพลาดจำนอง ไปสู่การโดนเจ้าของบ้านซัดเบิกร่อง

จากนั้น เฮนเดอร์สัน ไม่มีจังหวะไหนที่เล่นได้บกพร่องเลย ที่สำคัญเขายังโชว์ไหวพริบที่เร็วด้วยการใช้ขาสกัดจังหวะยิงของ ซน ฮึง-มิน แผงหน้าชาวเกาหลีใต้ และก็ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าเลือดผู้ดี ได้ดีเยี่ยม ซึ่งจังหวะนั้นจัดว่าสำคัญมากๆ เก็บความมีชัย

โชว์ให้เห็นความ

ผลงานทั้งยัง 2 ครึ่งในแมตช์นี้ บอกเลยว่า เฮนเดอร์สัน เล่นได้เยี่ยมที่สุดอีกทั้งมีความนิ่ง รวมทั้งความฉลาดสำหรับในการยืนตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิ่งออกมาตัดบอลเร็วก่อนที่จะ สเปอร์ส จะได้โอกาสทำประตู ซึ่งนี่เป็นสไตล์ของผู้เฝ้าประตูยุคๆในแวดวงลูกหนัง

ฟอร์มของ เฮนเดอร์สัน ไม่ใช่แค่จะมีผลให้ เด เคอา จำต้องใส่สนับติดก้นนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองแค่นั้น แม้กระนั้นกับกลุ่มชาติอังกฤษมีความน่าจะเป็นที่เขาจะลุ้นยึดมือ 1 จาก จอร์แดน พิคฟอร์ด และก็นำ “สิงโตคำราม” ออกศึกยูโร 2020 ในตอนซัมเมอร์นี้

สำหรับดินแดนกึ่งกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด ณ ตอนนี้จำต้องบอกเลยว่าพอดีมากมายๆเมื่อใช้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำหน้าที่เป็นผู้เล่นคนสำคัญ, ปอล ป็อกบา ยืนทางขอบเส้น และก็มี สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด รอปฏิบัติหน้าที่ยืนแพ็คคู่เพื่อทำให้แผงกองกลาง “ผีแดง” แน่นแฟ้นเพิ่มขึ้น

แม้ดูดีๆในขณะที่ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด มิได้ลงเล่นพร้อม แผงมิดฟิลด์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะออกจะหลวมๆไม่อดทนเท่าไรนัก ด้วยเหตุนี้นี่เป็นการตกลงใจที่ถูกของ โซลชา ที่เลือกจับทั้งสองลงสนามพร้อม

เฟร็ด เล่นด้วยความมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อมี แม็คโทมิเนย์ รอเป็นอย่างยิ่งหนุน แล้วก็ยังทำประตูตีเสมอให้กลุ่มด้วย เวลาที่ มิดฟิลด์ชาวสกอตติช ก็เล่นได้สะดุดตาโดยสามารถตัดเกมแดนกึ่งกลางของ สเปอร์ส ออกไปได้หมดจนกระทั่งทำให้พวกเขาขึ้นเกมเพื่อบีบคั้นแนวรับของ แมนฯ ยู แทบจะไม่ค่อยได้

นอกเหนือจากนั้นทั้งคู่คนยังช่วยปรับให้ บรูโน่, มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมทั้ง ป็อกบา ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องเกมรับ

เพราะว่าพวกเขาสามารถต่อกรกับมิดฟิลด์ “ไก่เดือยทอง” ได้อย่างสบายๆ ส่วนอีกรายที่ทำผลงานได้เด่นไม่แพ้กันก็คือ ป็อกบา ซึ่งโดนจับไปเล่นทางขอบเส้น แล้วก็ ตัวรุกแชมป์โลกเลือดเฟร้นช์ ก็ใช้ความสามารถที่สุดยอดอีกทั้งการผลิตสรรค์เกม แล้วก็การจ่ายบอลอย่างเฉียบคมจัดแจงแนวรับ สเปอร์ส ได้อย่างอยู่มือ

ผลงานของ เอดินสัน ในแมตช์นี้ จำต้องบอกเลยว่าอาจทำให้สาวก “เร้ด อาร์มี่” เรียกร้องให้สมาพันธ์จัดแจงขยายข้อตกลงกับเขาออกไปโดยทันที เนื่องจากฟอร์มอย่างงี้เป็น “หน้าเป้า” ที่ แมนเชสเตอร์ รอคอยมานานแล้ว

หัวหอกชาวอุรุกวัย ได้โอกาสได้ลงสู่สนามเป็นตัวจริงในแมตช์สำคัญนี้ และก็เขาก็ไม่ทำให้ นายใหญ่เลือดนอร์เวย์ ผิดหวังเนื่องจากสร้างป่วนปั่นเกมรับที่แน่นแฟ้นตามสไตล์รถบัสยี่ห้อมูรินโญ่ ได้ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งแรก ข่าวบอลพรีเมียร์ลีก

ในวัย 34 ปีแม้กระนั้น ยังบอกให้เห็นถึง ความสามารถการเล่นที่ชาญฉลาด แล้วก็ยังโชว์ลีลาการสัมผัสบอลที่สุดยอดหลายต่อบ่อย รวมถึงจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคมแต่ว่าโชคร้ายที่ “วีเออาร์” ไม่ยอมรับลูกยิงที่สุดยอดของเขาในครึ่งแรก

โชว์ให้เห็นความ

สำหรับช่วงหลัง มีส่วนอย่างมาก ในจังหวะที่ เฟร็ด ยิงตีเสมอ แล้วก็โชว์ความถนัดการพุ่งโหม่งอย่างงดงามให้กลุ่มขึ้นนำ ด้วยเหตุนี้ผลงานทั้งสิ้นนี้ของ “เอล มาทาดอร์” ก็เลยคู่ควรเป็นอย่างมากที่จะได้รับคำยกย่องอย่างล้นหลาม

แน่ๆว่าในช่วงเวลานี้แฟนบอล “ผีแดง” อาจกระตุ้นให้ โซลชา แล้วก็เหล่ากระดานบริหารรีบใช้ความพยายามอย่างเต็มที่สำหรับในการชักจูง ให้อยู่ร่วมกับสังกัดเดิมถัดไป เนื่องจากว่ามั่นใจว่าทั้งยังประสบการณ์และก็ความยอดเยี่ยมของเขา บางทีก็อาจจะนำสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาสู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

นับจากที่ โซลชา ห้อยสตั๊ดไป แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ค่อยได้มองเห็นนักฟุตบอลคนไหนที่มีศักยภาพในฐานะซูเปอร์ซับได้ดิบได้ดีพอๆกับ “เพชฌฆาตหน้าทารก” อีกแล้ว กระทั่งกลุ่มมีผู้เล่นดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง เมสัน กรีนวู้ด หัวหอกเลือดผู้ดี

กรีนวู้ด เป็นเด็กปั้นขนานแท้ของสมาพันธ์ แล้วก็มีสมรรถนะที่สุดยอดจนกระทั่งขั้นถูกวางให้เป็นอนาคตของกลุ่ม แต่ว่าด้วยวัยวุฒิรวมทั้งประสบการณ์ทำให้ในเวลาที่เจ้าตัวได้โอกาสได้ลงเป็นตัวจริงชอบทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าเมื่อใดที่ถูกส่งลงไปเป็นตัวสำรองเขาชอบช่วยทำให้กลุ่มกลับเหตุการณ์ได้เสมอ

ในแมตช์กับ “ไก่เดือยทอง” กรีนวู้ด เป็นคนแอสซิสต์ให้กับ คาวานี่ พุ่งโหม่งช่วยกลุ่มขึ้นนำ 2-1 แล้วก็ยังเป็นผู้ที่จัดแจงกดเต็มข้อในตอนทดเจ็บเป็นประตูตอกฝาโลงนำ แมนเชสเตอร์ ล้างแค้นได้เสร็จ ภายหลังที่เคยแพ้เสียหายในตอนต้นฤดูกาลนี้ ดูบอลสด

ที่สำคัญผลงานของ กรีนวู้ด ในวัย 19 ปีกับ 192 วัน ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งคนแรกที่ทั้งยังทำประตูแล้วก็แอสซิสต์ในฐานะผู้เล่นสำรองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีก นับจากที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยทำเป็นเมื่อพฤศจิกายน 2003 (ในเกมเจอ พอร์ทสมัธ)